สงวนลิขสิทธิ์บทความในบล็อก

MarryBeam.com เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เนื้อหาทั้งหมดในบล็อก merrybeamcosmetics.blogspot.com แต่เพียงผู้เดียว ไม่อนุญาติให้ผู้ใดนำไปคัดลอก ดัดแปลง และใช้กับกิจการการค้าของท่าน ยกเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อกเป็นลายลักษณ์อักษรเสียก่อน มิเช่นนั้นจะถือว่าท่านได้ทำผิด พรบ.ลิขสิทธิ์และเรามีอำนาจตามกฎหมายในการดำเนินการในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ได้ค่ะ

สำหรับผู้ที่พบเห็นการนำข้อความหรือรูปภาพในบล็อกนี้ไปใช้ ขอความกรุณาแจ้งกลับมาที่ rinyabhatr@gmail.com ทางเราจะมีของตอบแทนให้ตามความเหมาะสมค่ะ ขอบคุณค่ะ
Showing posts with label สิว. Show all posts
Showing posts with label สิว. Show all posts

Tuesday, July 27, 2010

รวมโปรโมชั่นประจำเดือนสิงหาคม 2553


ชุด Home Spa Treatment

สำหรับลูกค้าที่ต้องการทำ Treatment ด้วยตัวเองที่บ้าน ด้วยคุณภาพผลิตภัณฑ์ระดับคลินิกเวชสำอางแต่ทำได้ง่าย ทำได้เองในราคาประหยัดที่บ้านค่ะ ลูกค้าสามารถเลือกมาส์กได้ตามวัตถุประสงค์ของการทำ Treatment

3.1 สำหรับลูกค้าที่ต้องการล้างสารพิษตกค้างในผิวด้วยตัวเอง เพื่อลดอาการสิว ลดหน้าหมอง เพื่อผิวที่แข็งแรงขึ้น เลือดลมไหลเวียนได้มากขึ้น และทาครีมบำรุงซึมลึกได้มากกว่าที่เคยเป็นมา

Mask สาหร่ายคลายพิษขนาด 80 กรัม 1 กระปุก และ Treatment Serum 7 กรัม 2 ขวด

ปกติราคา 1370 บาท
ราคาพิเศษ 1100 บาท ฟรีจัดส่งแบบลงทะเบียนค่ะ

3.2 สำหรับลูกค้าที่ต้องการให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติเพียงครั้งแรกที่ใช้ด้วยคุณภาพมาส์กโยเกิร์ตระดับ First Class ที่ใช้ในสปาชั้นหนึ่ง ช่วยทำให้ความหมองคล้ำหายไป ลดรอยสิว ลดจุดบกพร่องบนใบหน้า และหน้าสดใสอย่างเป็นธรรมชาติ

Mask โยเกิร์ตขนาด 80 กรัม 1 กระปุก และ Treatment Serum 7 กรัม 2 ขวด

ปกติราคา 1280 บาท
ราคาพิเศษ 1000 บาท ฟรีจัดส่งแบบลงทะเบียนค่ะ

พิเศษ! ทุกเซ็ตจัดส่งฟรีแบบลงทะเบียน หากต้องการให้ส่งแบบ EMS ขอคิดค่าจัดส่งเพิ่มอีก 50 บาทค่ะ ^^

สั่งสินค้าได้ที่ร้าน www.marrybeamshopping.com ได้เลยนะคะ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ rinyabhatr@gmail.com 080-499-8105 หรือทาง Facebook ได้เลยค่ะ

กลับไปดูโปรฯ อื่น ๆ ได้ที่ ร้านออนไลน์

ขอบคุณค่ะ ^^

Wednesday, June 23, 2010

การลดความเสี่ยงจากการทดลองใช้เครื่องสำอางยี่ห้อใหม่ ๆ

ค่ะ หลังจากที่ได้เขียนเกี่ยวกับว่า ใช้ผลิตภัณฑ์ทำไมสิวขึ้นหรือหน้าลอกไปเมื่อวาน ก็รู้สึกว่า ลูกค้าหรือผู้สนใจอาจจะรู้สึกกลัวว่า มันจะเหมือนกับอะไร ๆ ที่เคยใช้มารึเปล่านะคะ

บีมมาชี้แจงต่ออีกนิดนึงค่ะว่า ผลิตภัณฑ์ของเราจะแบ่งได้เป็น
  • กลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า
  • กลุ่มบำรุงผิวพื้นฐาน
  • กลุ่มผิวขาวใสและฝ้า กระ
  • กลุ่มกันแดด
  • กลุ่มสลายไขมันและเซลลูไลท์
  • กลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตัว
  • กลุ่มอาหารเสริม
หรือแบ่งอีกแบบหนึ่งจะได้เป็น
  • กลุ่มล้างพิษผิว
  • กลุ่มรักษาสิว
  • กลุ่มรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยสิว
  • กลุ่ม Body
ซึ่งการจับกลุ่มแบบหลังนี้ บีมจะนำเอาอาหารเสริมกับผลิตภัณฑ์ที่มุ่งการรักษาเฉพาะปัญหาที่ลูกค้าต้องการมาไว้ด้วยกันค่ะ โดยอิงจากข้อมูลที่ได้รับจากหลายแหล่ง รวมไปถึงเคสลูกค้าหรือผู้ใช้ที่ประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหานั้น ๆ หรือได้รับผลลัพธ์ที่ดีขึ้นหลังจากที่ได้ใช้ และัยังเป็นการประมวลจากความรู้ของบีมตั้งแต่เมื่อยังดูแลตัวเองแนวธรรมชาติบำบัด 100% ใช้แต่สบู่และของธรรมชาติทั้งหมด จนกระทั่งมาใช้เครื่องสำอางและอาหารเสริมแบบผสมผสานกับหลักการดูแลสุขภาพดั้งเดิมของตัวเอง

บีมไม่ได้จับกลุ่มตามแบบใคร แต่จับให้ตามวัตถุประสงค์ของการใช้ผลิตภัณฑ์แต่ละประเภทจริง ๆ ซึ่งเป็นการจับกลุ่มโดยมีลักษณะเฉพาะที่กลั่นกรองมาจากความรู้และการสังเกตของบีมเองค่ะ

คราวนี้ บีมขอชี้แจงว่า การจะใช้อะไรกับใบหน้า ถือเป็น Risk หรือความเสี่ยงอย่างหนึ่ง

ความเสี่ยงในทางการลงทุน หมายถึง โอกาสที่จะได้ เสีย หรือเท่ากับที่ลงทุนไปครั้งแรกนั่นเอง

ถ้าจะถามบีมว่า การที่จะตัดสินใจมาซื้อเครื่องสำอางยี่ห้อใหม่ใ้ช้ (ไม่ว่าจะยี่ห้อใด ๆ ก็ตาม) ความเสี่ยงมีดังนี้ค่ะ
  • โอกาส ได้ เสีย เท่าทุน มีแน่นอน และมีเท่า ๆ กัน
  • เสี่ยงว่ามันจะเข้ากับผิวเรามั้ย
  • เสี่ยงว่ามันจะทำให้แพ้หรือไม่
  • เสี่ยงว่าการตอบสนองของผิวจะไปในทิศทางใด
ซึ่งการที่จะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงนั้นหรือกระทั่งควบคุมความเสี่ยงให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการได้ ในทางการลงทุนในตลาดหุ้นหรืออื่น ๆ คือ การศึกษาหาความรู้ในสิ่งนั้นเิพิ่มเติม

ยกตัวอย่างเรื่องใกล้ตัวนะคะ

ขับรถยนต์ออกจากบ้าน ก็เสี่ยงแล้วค่ะ คือ 1. รถชน 2. รอดปลอดภัย

แต่สิ่งที่เราทำได้เพื่อลดอุบัติเหตุและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับเราก็คือ
  • รู้จักกลไกของรถ
  • มีความรู้เรื่องกฎจราจร
  • มีทักษะในการขับรถ
  • มีทักษะในการตัดสินใจ
  • มีสายตาที่ดี ไม่สั้น ไม่ยาว
  • มีสติขณะขับรถ
แต่ถ้าถามว่า จะมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุมั้ย มีค่ะ แต่น้อยมาก ถ้าเรามีสิ่งเหล่านี้

เรื่องการใช้เครื่องสำอางก็เหมือนกัน บีมพูดรวม ๆ นะคะ ไม่ได้เชียร์เครื่องสำอางของตัวเอง คือ บีมอยากให้ทุกคนสามารถควบคุมชะตาชีวิตของตัวเองได้ ไม่โทษว่า ผิวอย่างเรา จะไปใช้อะไรไ้ด้ ใช้อะไรก็ไม่เห็นดีขึ้น ใช้อะไรก็ดูหมดหวัง มีแต่ต้องลองไปเรื่อย ๆ

ลองปรับเปลี่ยนตัวเองก่อนนะคะ ให้เป็นคนขับรถที่ดี คือ เตรียมพร้อมในหลาย ๆ อย่างเพื่อลดความเสี่ยงและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเราให้มากที่สุด โดยมีแต่ตัวคุณเองเท่านั้นที่จะทราบตรงนี้ค่ะ ไม่มีใครรู้จักตัวคุณดีเท่ากับคุณเอง และแม้บีมจะให้คำปรึกษาและแนะนำได้ แต่อย่าลืมนะคะว่า เราสื่อสารแบบไม่เห็นหน้ากัน แต่บีมพอจะประมวลจากข้อมูลที่ได้ัรับมาจากคุณอีกทีแ้ล้วแนะนำออกไปค่ะ มันอาจจะไม่ 100%

บีมชื่นชมลูกค้าและเพื่อน ๆ หลายท่านนะคะ ที่พยายามสังเกตและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองก่อน

ค่ะ การลดความเสี่ยงหรือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากการใช้เครื่องสำอาง คือ
  • รู้จักสภาพผิวหน้าของตัวเองก่อน สำรวจว่าเคยใช้อะไรมาก่อนบ้าง สภาพปัจจุบันเป็นเช่นไร
  • ต้องการแก้ไขในจุดใด
  • ดูข้อมูลหลาย ๆ แหล่งเกี่ยวกับการรักษาผิว ณ จุดนั้น (อันนี้ขอให้ศึกษาจริงจังเลยค่ะ เอาให้ชัด เอาให้รู้จริง จะได้เป็นแหล่งข้อมูล
  • ลองเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย และความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในแต่ละวิธีที่ใช้รักษา
  • เมื่อมั่นใจแล้วเลือกก็วิธีนั้น
  • ให้เวลากับวิธีนั้น ๆ อย่างเต็มที่ประมาณ 1-3 เดือนเพื่อดูผลลัพธ์เบื้องต้นเมื่อทำเต็มที่
ไม่ว่าจะทำอะไร การศึกษาข้อมูลจากทั้งหนังสือ ผู้รู้ หรือแหล่งต่าง ๆ ที่น่าเชื่อถือได้เ็ป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกค่ะ

ใช้แล้วสังเกต ปรับปรุงให้ดีขึ้น เป็นวิถีทางในการพัฒนาทุกสิ่งรวมถึงใบหน้า

บีมเองไม่มีจุดมุ่งหมายให้ใครต้องมาเชื่อบีม 100% นะคะ เพราะ ความเชื่อใจเป็นสิ่งที่บังคับกันไม่ได้

แต่สิ่งที่บีมรู้ก็คือ บีมให้ข้อมูลที่ไม่บิดเบือนกับทุกคนที่สนใจผลิตภัณฑ์ ผลลัพธ์ที่บีมใช้มันเป็นแบบนี้ก็คือแบบนี้ ผลลัพธ์ที่ลูกค้าใช้เป็นแบบนี้ก็บอกไปแบบนี้ค่ะ

บีมรู้ตัวว่าทำในสิ่งที่ถูกต้อง และผลิตภัณฑ์ของบีมก็คัดสรรมาดีแล้วค่ะ

และอย่างหนึ่งก็คือ ลูกค้าของบีมหลายท่านงานยุ่งค่ะ และหลายท่านก็ไม่ได้เล่นเน็ตเป็นกิจวัตร ดังนั้น มันจะยากสำหรับบีมในการให้ข้อมูลที่เป็น Feedback จากลูกค้าท่านนั้น ๆ โดยตรงผ่านทางเว็บบอร์ดร้าน แล้วถ้าบีมประมวลมาเขียนเอง ก็จะดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือใช่มั้ยคะ ^^ นั่นถือเป็นข้อจำกัดที่บีมต้องเจอค่ะ แต่ไม่ซีเรียส เพราะไม่ว่ายังไงบีมก็ใช้เองอยู่แล้วด้วย ลูกค้าประจำก็ใ้ช้เรื่อย ๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องของ ความคิดและความเชื่อของผู้สนใจรายใหม่ ๆ ที่มีต่อบีมและผลิตภัณฑ์ของบีมค่ะ บีมไม่ซีเรียสตรงนี้จริง ๆ เพราะบีมบังคับไม่ได้ :))

เอาเป็นว่า บีมเข้าใจลูกค้าและผู้สนใจทุกคนเสมอนะคะ ไม่ว่าคุณจะมองบีมและผลิตภัณฑ์ของบีม บวก ลบ อะไรยังไง จะมองเหมือนยี่ห้ออื่น จะดีกว่า ด้อยกว่าอย่างไร มันก็จะเป็นของมันอยู่แบบนี้ค่ะ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เองค่ะ :)) บีมก็มีหน้าที่ให้ข้อมูลสำหรับการตัดสินใจและคอยช่วยเหลือดูแลเมื่อเวลาที่ทุกคนมีปัญหาหลังใช้ผลิตภัณฑ์

Wednesday, June 16, 2010

อัพเดทผลการรักษาสิวโหนกแก้มด้วยผลิตภัณฑ์ MerryBeam

น่าภูมิใจค่ะ ผลลัพธ์เริ่มเผยแล้ว ^^

หลังจากที่ช่วงแรก ไม่รู้ว่าจะออกหมู่หรือจ่า รู้แต่ว่า Nano Treatment Serum ช่วยเรื่องสิวได้ และบีมคิดว่าอะไรใส่ผิวแล้วยิบ ๆ สิวก็น่าจะช่วยฆ่าเชื้อได้นะ ก็ทดลองใส่เรื่อยมาค่ะ

นับมาก็เป็นเวลาสัปดาห์กว่า ๆ บีมเริ่มพอกมาส์กสาหร่ายฯตั้งแต่ประมาณปลายเดือนพฤษภาคม เพราะดันไปแพ้ผงสมุนไพรมา ทำวันแรก ออกมาหน้าสว่างใส สะอาดดี โอเคเลย

เห็นว่า วันทั้งวันของวันที่สอง ผิวก็ไม่ได้เ็ป็นอะไร เลยพอกต่อ

วันที่สองก็ให้ผลลัพธ์สะอาดใสเหมือนเดิม เช้ามาหน้าก็ดีขึ้น

วันทั้งวัน ผิวก็ไม่ระคายเคืองอะไร

เลยใช้ต่อเนื่องไปเลย 5 คืนค่ะ

สิวลดลงจริง ๆ หน้าใสสว่างขึ้นอย่างแข็งแรง เพราะเจอแดดก็ไม่สะทกสะท้านเลยค่ะ แม้ไม่ทากันแดด (ทำงานอยู่บ้าน ทามั่งไม่ทามั่งค่ะ และอยากให้สิวลดเร็ว ๆ เลยไม่ค่อยทา จะทาก็ตอนที่ทดลองกันแดดตัวใหม่ที่มาถึงมือนี่แหละค่ะ ^^)

จากนั้น มาต่อด้วย Nano Treatment Serum วันแรก ๆ เหมือนไขมันผุดขึ้นเยอะแยะ เอ...มันจะดีมั้ยหว่า ก็ยังคิดในใจ แต่คิดว่า มันดีแน่ เพราะเคยอ่านบทความมาหลายอันว่า การบำรุงจะได้ผลดี มันต้องมีขั้นตอนผลัดผิวหรือเอาเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออกก่อน

เจ้า Nano Treatment Serum ก็ช่วยเรื่องนี้แหละ แถมยังช่วยกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนด้วยค่ะ ส่วนผสมดีมาก ๆ เล็กพริกขี้หนู อัดแน่น ๆ

ตอนแรก ๆ ไม่กล้าใช้ทุกวันค่ะ แต่มาส์กนี่มั่นใจละว่าใช้ได้ทุกวันแน่นอน เพราะหน้าไม่กร้านหรืออะไรเลย ไม่แพ้ ไม่แสบ ไม่แดง ไม่ทั้งสิ้น แถมหน้ามันลดลงอีก เยี่ยม

แต่ด้วยความสงสัย ประกอบกับว่า อยากให้สิวโหนกแก้มที่น่ารำคาญยุบไปเสียที ก็จัดการทาเฉพาะบริเวณโหนกแก้มและลงมาแก้มด้านในวันเว้นวัน ล้างออกแล้วโปะด้วยมาส์กสาหร่าย ล้างออก

บางคืนก็ขี้เกียจลงมาส์ก พอหลังจากลง Nano Treatment Serum ล้างออก แล้วก็จะลงน้ำแข็ง ลูบตามแนวโพรงขน เสร็จแ้ล้วก็ลง botox & whitening serum ในชุด Advanced Botox ค่ะ ซึ่งบีมใช้ตัวตลับที่ทากลางคืนไม่ได้เพราะตัวยาผลัดผิวอาจจะกระทบต่อน้องได้ ก็ไม่ใช้ค่ะ

ดังนั้น ตัวที่ใช้ในช่วง 2 สัปดาห์นี้ ก็จะมี
  • มาส์กสาหร่ายคลายพิษ (ตัวเอกตัวแรกเลย ลดสิว & หน้าขาวสว่างใส)
  • Nano Treatment Serum (ตัวเอกในการกำจัดสิวเรื้อรังที่โหนกแก้ม ทั้งอุดตัน และอักเสบ สามารถทาได้ทุกวันนะคะ อาจจะเน้นย้ำบริเวณที่ต้องการให้หายเป็นพิเศษทุกวันได้เลย แต่ห้ามลืมลงมาส์กหรืออาหารผิวตามนะคะ)
  • Botox & Whitening Serum ในชุด Advanced Botox
  • กันแดด BB สำหรับผิวสีเข้ม
  • กันแดดเนื้อเบาไม่ปกปิด Nano Sunscreen SPF 60
  • ปัถวีบ้างนิดหน่อย สำหรับแต้มสิวอักเสบ และมีัตัวยาวิตซีสำหรับแต้มสิวเพิ่มเติม
  • แป้งฝุ่น
  • การล้างหน้าทุกเย็นจะใช้ ลอรีอัลสูตรน้ำนม เจลล้างหน้าน้ำแร่ผสมทองคำในชุด Advanced Botox และ น้ำเกลือ Klean & Kare ทุกวันค่ะ ตามแนวโพรงขน สำคัญมากๆ
  • สำลีแผ่นรีดขอบตรารถพยาบาล (ต้องบอกมั้ยนี่ ^^)
ยาไม่ได้ใช้เลยค่ะ ก็ใ้ช้เท่านี้เอง
คอลลาเจนซีก็ทานไม่ได้

แต่คิดว่าสงสัย Nutrilite Protein จะเข้ามาเสริมกำลังด้วยอีกทาง กินให้ลูก แต่รู้สึกว่าคุณแม่ก็ได้รับอานิสงค์ด้านภูมิต้านทานผิวไปด้วย

แต่ต้องบอกกันนะคะว่า การดูแลผิวเป็นสิว ต้องทำทุกอย่างควบคู่กัน

ทั้งภายนอกและภายใน

แต่ก่อนตอนทำ Amway บีมก็ทานนิวทริไลท์นะ ถามว่า ผิวดีมั้ย ดีนะคะ เีนียนดี แต่ว่าสิวไม่ลงน้า เพราะเราไม่ดูแลส่วนอื่นค่ะ ลำไส้ การพักผ่อน ฯลฯ และเครื่องสำอางไม่ถูกกับหน้าด้วย คือ ไม่ทราบวิธีการที่ถูกต้องในการดูแลภายในและภายนอก

คือ ไม่ว่าคุณจะกินอะไร ใช้ผลิตภัณฑ์อะไร ก็ขอให้ทำแบบองค์รวม ควบคู่ ๆ กันไปนะคะ จะดีที่สุดเลยค่ะ ^^ อาจจะไม่ได้เต็มร้อย แต่หัวใจของมันอยู่ที่ความสม่ำเสมอค่ะ แล้วมันจะค่อย ๆ ดีขึ้นเอง ^^

Confirm จ้า

Tuesday, June 1, 2010

ทำไม Dtox และ Collagen+C จึงช่วยเรื่องสิวได้?

ส่วนของ Dtox นี่จะเป็นตัวขับล้างสารพิษในลำไส้ ช่วยในการขับถ่ายได้อย่างหมดจด

เพราะในปัจจุบัน อาหารที่เราทานส่วนใหญ่มีเส้นใยอาหารน้อยมากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นข้าวขัดสี (ข้าวขาว) ขนมปัง ก๋วยเตี๋ยว ลูกชิ้น กล้วยทอด หมูปิ้ง ข้าวเหนียว ฯลฯ

พอเส้นใยอาหารน้อย การขับถ่ายก็ยากและน้อย ทำให้อาหารเก่า ๆ ที่คั่งค้างในลำไส้ตกค้างและบูดเน่าอยู่ในนั้น เชื้อโรคเริงร่าและอาหารของเชื้อโรคก็เต็มเลย

หลังจากนั้น พอไม่ถ่าย ร่างกายไม่ได้ไหลเวียนทางเดียวค่ะ ของเสียอยู่ตรงไหน มันกระจายไปที่อื่นได้หมด

เหมือนคนเป็นมะเร็งลำไส้ แล้วอาจจะลามไปไขสันหลังได้ประมาณนี้

บางคนแม้จะถ่ายทุกวัน ก็ถ่ายไม่สุด มันจะอึดอัด ๆ

ถ้าคนถ่ายสุด มันจะโล่ง โปร่ง สบาย เบาหัว เบาตัวอย่างบอกไม่ถูก

การทาน Dtox จึงช่วยเอาอาหารเชื้อโรคออกไป ทำให้เชื้อไม่ดีค่อย ๆ ตายลง ๆ เพราะขาดอาหาร ของสกปรกในลำไส้ก็ถูกกำจัดออกไป เลือดลมจึงสะอาดมากขึ้นค่ะ ตับไม่ต้องทำงานหนักกรองของเสีย กรองเชื้อโรคเหมือนแต่ก่อน ส่งผลดีต่อร่างกายทั้งระบบ และผิวพรรณ

ส่วน Collagen+C นั้น เป็นอาหารเสริมสูตรพิเศษแบบ 3 in 1 คือ
  • ล้างพิษในเซลล์และเลือดด้วยสารสกัดจากสาหร่ายออร์แกนิค
  • ต้านการอักเสบของเซลล์ด้วย Omega 3
  • ซ่อมแซมและฟื้นบำรุงเซลล์ด้วยส่วนผสมประเภท DNA และอะมิโนของโปรตีน
ดังนั้น นอกจากเซลล์และเลือดจะสะอาดขึ้นแล้ว ยังมีสารต้านการอักเสบที่เราอาจจะได้รับจากอนุมูลอิสระจากสิ่งแวดล้อม อาหารและน้ำที่เราได้รับ นอกจากนี้ ยังมีวิตามินซีที่ช่วยในการ recycle สารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ในร่างกายให้กลับมาทำงานได้ใหม่ พร้อมเป็นสารต้านอนุมูลอิสระไปในตัว

จึงช่วยลดการติดเชื้อ การอักเสบของผิว และช่วยบำรุงผิวให้ดีทั้งร่างกาย

การทำงานผสานกันระหว่าง 2 ผลิตภัณฑ์นี้จึงได้ผลดีสำหรับทุกคนที่ต้องการให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้นได้ในวิถีชีวิตที่เร่งรีบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

Dtox ช่วยลดของเสียหมักหมมอันเป็นอาหารของเชื้อโรคในลำไส้ที่ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ รวมทั้งผิวพรรณที่ไม่ผ่องใสตามมา

Collagen+C ช่วยล้างพิษในเลือดพร้อมกระตุ้นให้เซลล์มีการทำงานเพื่อสร้างเซลล์ใหม่มากขึ้น พร้อมปกป้องเซลล์ให้ปลอดภัยจากอนุมูลอิสระและการอักเสบอีกด้วยค่ะ

หากต้องการทานคู่กัน ให้ทาน Collagen+C 2 แคปซูลในตอนเช้า ตามด้วยน้ำ 2 แก้ว (ตื่นมาแล้วทานเลย) และ Dtox 1-2 แคปซูลก่อนนอน ตามด้วยน้ำ 1-2 แก้วเช่นกันค่ะ

Sunday, May 30, 2010

ครรภ์ปลอดสิว ภาค 2



ภาคแรกเขียนเอาไว้ในบล็อกปฏิวัติความคิดพิชิตสิวค่ะ

ภาคสองเอามาเขียนไว้ที่นี่แทน เพราะหายจากเครื่องสำอางมาร์คหน้าค่ะ เลยขอมาแชร์ความตื่นเต้นด้วยตัวเอง

คือ ตอนแรกไม่รู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ค่ะ เพราะไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้
แต่ด้วยความผิดปกติหลายอย่าง โดยเฉพาะ สิวที่ขึ้นแบบไม่ทราบสาเหตุ
ทั้งที่เราก็ทานอะไรเหมือนเดิม ดูแลสุขภาพเหมือนเดิมทุกอย่าง และหน้าก็ใสขึ้นแล้วด้วย เหลือรอยเก่า ๆ ตรงแก้มหน่อยเดียว

ซึ่งบอกตามตรงว่า กำลังเตรียมตัวจะไปตัดผมสั้นแบบคุณเจี๊ยบหรือน้องกิ่งทีเดียว เพราะอยากตัดมานานแล้ว แต่หน้าไม่เคยใสเลย และรู้สึกว่าจะตัดแบบนั้นต้องหน้ากิ๊งค่ะ ถึงจะดูดี คือ เตรียมตัวแล้วจริง ๆ

แต่คุณลูกก็มาเกิดค่ะ :-) ดีใจนะ แต่สิวขึ้นมากมาย ๆ

ตอนแรกก็ยังไม่รู้จะต้องกินอะไร ก็กินนมวัว นมเปรี้ยวที่ทำจากนมวัวพวกนั้นล่ะค่ะ ยิ่งทำให้สิวแย่ไปใหญ่ แต่พอเริ่มอ่านหนังสือและจับหลักได้ ก็เลิกนมวัว และดื่มนมถั่วเหลืองและธัญพืชแทน เนื้อสัตว์ใหญ่ไม่ค่อยทานค่ะ ทานปลา ทานโปรตีนจากอย่างอื่นแทน อันนี้ทั้งห่วงน้องและห่วงสิวค่ะ เพราะเรากินนมวัวแล้วภูมิแพ้มาอีกแล้่ว และเคยอ่านว่า เด็กสมัยนี้ไม่ค่อยแข็งแรง เป็นภูมิแพ้มากตั้งแต่เกิดเพราะแม่ดื่มนมวัวตอนท้อง เราก็เลยไม่อยากดื่ม และก็คิดว่าอะไรที่ไม่ดีกับเรา ก็คงไม่ดีกับลูกด้วยแหละ เพราะเค้าเป็นเซลล์ที่เกิดจากเรา

พล่ามยาว เพราะอยากให้รู้ว่า อาหารที่ทานนั้นมีส่วนกับสิวอย่างมากค่ะ

ส่วนเครื่องสำอาง นี่เลยค่ะ ตอนนี้ใช้เซ็ตนี้ (Match เอาเอง บอกแล้วว่า ใช้ไปนาน ๆ ก็สลับไปสลับมาได้หมด เบื่อ ๆ ก็เปลี่ยน ไม่มีปัญหาเลย)


ซ้ายสุด: มาร์คพอกหน้า เสมือนมาร์ค Detox และเติมอาหารผิว ใช้ต่อกัน 4 คืนเลยทีเดียว หน้าสว่างใส สะอาดอย่างเป็นธรรมชาติทันทีหลังล้างเนื้อมาร์คออก ความร้อนบนผิว สิวอุดตันและสิวอักเสบลดลง 70-80% ใน 4 วัน (เพราะไปแพ้ผงสมุนไพรพอกหน้ามาจ้า ตอนแรกกะใช้ยารักษาสิว แต่ไม่กล้าซื้อ เลยไปใช้สมุนไพรผง คิดว่าแพ้เพราะผื่นเล็ก ๆ ขึ้นเต็มเลย แถมสิวอักเสบขึ้น เลยหยุดไปก่อน แล้วมาร์ค 4 คืนต่อกัน มันเยี่ยมยอดมากค่ะ ขอบอก สิวลดลง หน้ากระจ่างใสขึ้นจริง ๆ (ยังตื่นเต้นไม่หาย)

ถัดมา: โฟมล้างหน้า Nano Collagen อันนี้อ่อนดีค่ะ ก็ใช้ประจำนะ คือ โฟมเนี่ยไม่ต้องมีอะไรเติมเยอะหรอกค่ะ เชื่อเถอะ ไม่ต้องมีสารทำให้หน้าใสค่ะ เอาอ่อน ๆ แล้วพอให้สะอาด แล้วเดี๋ยวเรามาเติมบำรุงกับอาหารผิวแทนดีกว่า

ถัดมา: เป็นขวดแก้ว 2 อันเล็ก ๆ คือ วิตซีกับกลูต้าเซรั่มจ่ะ ใช้คู่กัน ใช้หลังล้างหน้าเพื่อเติมน้ำให้ผิวและช่วยบำรุงให้ผิวผลัดเซลล์เก่าออกได้ดีอย่างอ่อนโยนค่ะ

สุดท้าย: กันแดด อันนี้เป็นสูตรที่อยู่ที่ "ชุดหน้าเด้ง" จริง ๆ ชุดนี้มันมี 5 ตัว แต่อันอื่นให้คุณแม่หมดค่ะ เพราะใช้แล้วดี เลยแนะนำให้คุณแม่ลองเอาไปใช้ คุณแม่ติดใจ เลยใช้ทั้งเซ็ตเลย แต่เค้ามีกันแดดของเค้าอยู่ค่ะ บีมเลยเอากันแดดตัวนี้มา ช้อบชอบค่ะ มันบางเบาดี ไม่วอก ไม่มันด้วย ทั้งวัน

ผลลัพธ์คือ ผิวแบบนี้ (หลังจากมาร์คมา 4 คืนต่อกัน อะอะ)

เอามาให้ดูก่อน เดี๋ยวจะหาว่าใช้ไม่จริง :-)


แต่นแต๊นนน...


อันนี้ ถ่ายเช้าเมื่อวานค่ะ (30 พ.ค. 53) ก็คือ ล้างหน้าด้วยโฟมเสร็จ ลงวิตซีกลูต้าเซรั่ม และกันแดด ทาแป้งฝุ่นธรรมดา หน้าไม่แต่งเลย (เหลือสิวตรงแก้ม ๆ ค่ะ แต่มันลดลงมากมาย อักเสบก็ลด แดง ๆ ก็ลด สิวที่หน้าผากเกลี้ยงขึ้นกว่า 95% ค่ะ)

ให้เปรียบเทียบกับรูปตอนท้องใหม่ ๆ หน้าไม่กระจ่างใสเท่านี้นะคะ แต่ตอนนั้นเริ่มมีสิวเม็ดเล็กขึ้นค่ะ หลังจากหน้ากิ๊งเพราะสวนลำไส้ด้วยกาแฟ รูปนี้แต่งหน้าอ่อน ๆ ลงแป้งฝุ่น DHC



ส่วนอีก 2 รูป เอามาฝาก เผื่อไม่เชื่อว่าแต่ก่อนเยินจริง ๆ


อันนี้ ประมาณกลางปีที่แล้วค่ะ



อันนี้ประมาณ เม.ย.52 ค่ะ


ป.ล. เดี๋ยวเครื่องสำอางชุดใหม่ Treatment หน้าใสกำลังจะมา บีมรอใช้ตัวนั้นแหละ เค้าว่า เทพกว่ามาร์คนี้อีกค่ะ จะลอง ๆ :-)