สงวนลิขสิทธิ์บทความในบล็อก

MarryBeam.com เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เนื้อหาทั้งหมดในบล็อก merrybeamcosmetics.blogspot.com แต่เพียงผู้เดียว ไม่อนุญาติให้ผู้ใดนำไปคัดลอก ดัดแปลง และใช้กับกิจการการค้าของท่าน ยกเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อกเป็นลายลักษณ์อักษรเสียก่อน มิเช่นนั้นจะถือว่าท่านได้ทำผิด พรบ.ลิขสิทธิ์และเรามีอำนาจตามกฎหมายในการดำเนินการในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ได้ค่ะ

สำหรับผู้ที่พบเห็นการนำข้อความหรือรูปภาพในบล็อกนี้ไปใช้ ขอความกรุณาแจ้งกลับมาที่ rinyabhatr@gmail.com ทางเราจะมีของตอบแทนให้ตามความเหมาะสมค่ะ ขอบคุณค่ะ
Showing posts with label กระ. Show all posts
Showing posts with label กระ. Show all posts

Wednesday, June 23, 2010

การลดความเสี่ยงจากการทดลองใช้เครื่องสำอางยี่ห้อใหม่ ๆ

ค่ะ หลังจากที่ได้เขียนเกี่ยวกับว่า ใช้ผลิตภัณฑ์ทำไมสิวขึ้นหรือหน้าลอกไปเมื่อวาน ก็รู้สึกว่า ลูกค้าหรือผู้สนใจอาจจะรู้สึกกลัวว่า มันจะเหมือนกับอะไร ๆ ที่เคยใช้มารึเปล่านะคะ

บีมมาชี้แจงต่ออีกนิดนึงค่ะว่า ผลิตภัณฑ์ของเราจะแบ่งได้เป็น
  • กลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า
  • กลุ่มบำรุงผิวพื้นฐาน
  • กลุ่มผิวขาวใสและฝ้า กระ
  • กลุ่มกันแดด
  • กลุ่มสลายไขมันและเซลลูไลท์
  • กลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตัว
  • กลุ่มอาหารเสริม
หรือแบ่งอีกแบบหนึ่งจะได้เป็น
  • กลุ่มล้างพิษผิว
  • กลุ่มรักษาสิว
  • กลุ่มรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยสิว
  • กลุ่ม Body
ซึ่งการจับกลุ่มแบบหลังนี้ บีมจะนำเอาอาหารเสริมกับผลิตภัณฑ์ที่มุ่งการรักษาเฉพาะปัญหาที่ลูกค้าต้องการมาไว้ด้วยกันค่ะ โดยอิงจากข้อมูลที่ได้รับจากหลายแหล่ง รวมไปถึงเคสลูกค้าหรือผู้ใช้ที่ประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหานั้น ๆ หรือได้รับผลลัพธ์ที่ดีขึ้นหลังจากที่ได้ใช้ และัยังเป็นการประมวลจากความรู้ของบีมตั้งแต่เมื่อยังดูแลตัวเองแนวธรรมชาติบำบัด 100% ใช้แต่สบู่และของธรรมชาติทั้งหมด จนกระทั่งมาใช้เครื่องสำอางและอาหารเสริมแบบผสมผสานกับหลักการดูแลสุขภาพดั้งเดิมของตัวเอง

บีมไม่ได้จับกลุ่มตามแบบใคร แต่จับให้ตามวัตถุประสงค์ของการใช้ผลิตภัณฑ์แต่ละประเภทจริง ๆ ซึ่งเป็นการจับกลุ่มโดยมีลักษณะเฉพาะที่กลั่นกรองมาจากความรู้และการสังเกตของบีมเองค่ะ

คราวนี้ บีมขอชี้แจงว่า การจะใช้อะไรกับใบหน้า ถือเป็น Risk หรือความเสี่ยงอย่างหนึ่ง

ความเสี่ยงในทางการลงทุน หมายถึง โอกาสที่จะได้ เสีย หรือเท่ากับที่ลงทุนไปครั้งแรกนั่นเอง

ถ้าจะถามบีมว่า การที่จะตัดสินใจมาซื้อเครื่องสำอางยี่ห้อใหม่ใ้ช้ (ไม่ว่าจะยี่ห้อใด ๆ ก็ตาม) ความเสี่ยงมีดังนี้ค่ะ
  • โอกาส ได้ เสีย เท่าทุน มีแน่นอน และมีเท่า ๆ กัน
  • เสี่ยงว่ามันจะเข้ากับผิวเรามั้ย
  • เสี่ยงว่ามันจะทำให้แพ้หรือไม่
  • เสี่ยงว่าการตอบสนองของผิวจะไปในทิศทางใด
ซึ่งการที่จะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงนั้นหรือกระทั่งควบคุมความเสี่ยงให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการได้ ในทางการลงทุนในตลาดหุ้นหรืออื่น ๆ คือ การศึกษาหาความรู้ในสิ่งนั้นเิพิ่มเติม

ยกตัวอย่างเรื่องใกล้ตัวนะคะ

ขับรถยนต์ออกจากบ้าน ก็เสี่ยงแล้วค่ะ คือ 1. รถชน 2. รอดปลอดภัย

แต่สิ่งที่เราทำได้เพื่อลดอุบัติเหตุและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับเราก็คือ
  • รู้จักกลไกของรถ
  • มีความรู้เรื่องกฎจราจร
  • มีทักษะในการขับรถ
  • มีทักษะในการตัดสินใจ
  • มีสายตาที่ดี ไม่สั้น ไม่ยาว
  • มีสติขณะขับรถ
แต่ถ้าถามว่า จะมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุมั้ย มีค่ะ แต่น้อยมาก ถ้าเรามีสิ่งเหล่านี้

เรื่องการใช้เครื่องสำอางก็เหมือนกัน บีมพูดรวม ๆ นะคะ ไม่ได้เชียร์เครื่องสำอางของตัวเอง คือ บีมอยากให้ทุกคนสามารถควบคุมชะตาชีวิตของตัวเองได้ ไม่โทษว่า ผิวอย่างเรา จะไปใช้อะไรไ้ด้ ใช้อะไรก็ไม่เห็นดีขึ้น ใช้อะไรก็ดูหมดหวัง มีแต่ต้องลองไปเรื่อย ๆ

ลองปรับเปลี่ยนตัวเองก่อนนะคะ ให้เป็นคนขับรถที่ดี คือ เตรียมพร้อมในหลาย ๆ อย่างเพื่อลดความเสี่ยงและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเราให้มากที่สุด โดยมีแต่ตัวคุณเองเท่านั้นที่จะทราบตรงนี้ค่ะ ไม่มีใครรู้จักตัวคุณดีเท่ากับคุณเอง และแม้บีมจะให้คำปรึกษาและแนะนำได้ แต่อย่าลืมนะคะว่า เราสื่อสารแบบไม่เห็นหน้ากัน แต่บีมพอจะประมวลจากข้อมูลที่ได้ัรับมาจากคุณอีกทีแ้ล้วแนะนำออกไปค่ะ มันอาจจะไม่ 100%

บีมชื่นชมลูกค้าและเพื่อน ๆ หลายท่านนะคะ ที่พยายามสังเกตและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองก่อน

ค่ะ การลดความเสี่ยงหรือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากการใช้เครื่องสำอาง คือ
  • รู้จักสภาพผิวหน้าของตัวเองก่อน สำรวจว่าเคยใช้อะไรมาก่อนบ้าง สภาพปัจจุบันเป็นเช่นไร
  • ต้องการแก้ไขในจุดใด
  • ดูข้อมูลหลาย ๆ แหล่งเกี่ยวกับการรักษาผิว ณ จุดนั้น (อันนี้ขอให้ศึกษาจริงจังเลยค่ะ เอาให้ชัด เอาให้รู้จริง จะได้เป็นแหล่งข้อมูล
  • ลองเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย และความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในแต่ละวิธีที่ใช้รักษา
  • เมื่อมั่นใจแล้วเลือกก็วิธีนั้น
  • ให้เวลากับวิธีนั้น ๆ อย่างเต็มที่ประมาณ 1-3 เดือนเพื่อดูผลลัพธ์เบื้องต้นเมื่อทำเต็มที่
ไม่ว่าจะทำอะไร การศึกษาข้อมูลจากทั้งหนังสือ ผู้รู้ หรือแหล่งต่าง ๆ ที่น่าเชื่อถือได้เ็ป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกค่ะ

ใช้แล้วสังเกต ปรับปรุงให้ดีขึ้น เป็นวิถีทางในการพัฒนาทุกสิ่งรวมถึงใบหน้า

บีมเองไม่มีจุดมุ่งหมายให้ใครต้องมาเชื่อบีม 100% นะคะ เพราะ ความเชื่อใจเป็นสิ่งที่บังคับกันไม่ได้

แต่สิ่งที่บีมรู้ก็คือ บีมให้ข้อมูลที่ไม่บิดเบือนกับทุกคนที่สนใจผลิตภัณฑ์ ผลลัพธ์ที่บีมใช้มันเป็นแบบนี้ก็คือแบบนี้ ผลลัพธ์ที่ลูกค้าใช้เป็นแบบนี้ก็บอกไปแบบนี้ค่ะ

บีมรู้ตัวว่าทำในสิ่งที่ถูกต้อง และผลิตภัณฑ์ของบีมก็คัดสรรมาดีแล้วค่ะ

และอย่างหนึ่งก็คือ ลูกค้าของบีมหลายท่านงานยุ่งค่ะ และหลายท่านก็ไม่ได้เล่นเน็ตเป็นกิจวัตร ดังนั้น มันจะยากสำหรับบีมในการให้ข้อมูลที่เป็น Feedback จากลูกค้าท่านนั้น ๆ โดยตรงผ่านทางเว็บบอร์ดร้าน แล้วถ้าบีมประมวลมาเขียนเอง ก็จะดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือใช่มั้ยคะ ^^ นั่นถือเป็นข้อจำกัดที่บีมต้องเจอค่ะ แต่ไม่ซีเรียส เพราะไม่ว่ายังไงบีมก็ใช้เองอยู่แล้วด้วย ลูกค้าประจำก็ใ้ช้เรื่อย ๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องของ ความคิดและความเชื่อของผู้สนใจรายใหม่ ๆ ที่มีต่อบีมและผลิตภัณฑ์ของบีมค่ะ บีมไม่ซีเรียสตรงนี้จริง ๆ เพราะบีมบังคับไม่ได้ :))

เอาเป็นว่า บีมเข้าใจลูกค้าและผู้สนใจทุกคนเสมอนะคะ ไม่ว่าคุณจะมองบีมและผลิตภัณฑ์ของบีม บวก ลบ อะไรยังไง จะมองเหมือนยี่ห้ออื่น จะดีกว่า ด้อยกว่าอย่างไร มันก็จะเป็นของมันอยู่แบบนี้ค่ะ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เองค่ะ :)) บีมก็มีหน้าที่ให้ข้อมูลสำหรับการตัดสินใจและคอยช่วยเหลือดูแลเมื่อเวลาที่ทุกคนมีปัญหาหลังใช้ผลิตภัณฑ์

Friday, June 4, 2010

แนะนำการเลือกใช้สำหรับสภาพผิวที่แตกต่างกัน

เนื่องจากผิวของแต่ละคนมีความแตกต่างกันเป็นพื้นฐานก่อนที่จะมาใช้เครื่องสำอาง MerryBeam

ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่คุณจะต้องทราบว่า คุณควรจะทำอะไรกับผิวก่อนหลัง เป็นลำดับ ๆ ไป เพื่อให้การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์นั้นเห็นผลและคุ้มค่ามากที่สุด

1. ผิวผ่านสมรภูมิสารเคมีและยารักษาสิว

ลักษณะของผิว

ผิวประเภทนี้จะมีความอ่อนแอมากถึงมากที่สุด คำว่า "สมรภูมิสารเคมี" หมายถึง การผ่านการใช้ครีมราคาถูก ครีมตลาดล่าง ที่มักลดต้นทุนแต่ต้องการให้เห็นผลเร็ว จึงใส่สารไฮโดรควิโนน ปรอท หรือกรดวิตามินเอ การลอกหน้า (peeling) จากผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญหรือได้รับใบอนุญาต การใช้ครีมที่ตัวเองแพ้ แต่ไม่รู้ตัว และใช้ต่อไปเรื่อย ๆ จนผดผื่นขึ้นเต็มหน้า และในที่สุดจะเป็นอุดตันและอักเสบค่ะ

บางรายที่รักษาสิว และอาจพบว่ามีอาการหน้าติดยารักษาสิว การใช้ยา BP นาน ๆ โดยขาดการบำรุงอย่างถูกต้อง ก็ทำให้ผิวถูกทำร้าย หยาบร้าน อ่อนแอลง ติดเชื้อง่าย ทำให้เมื่อไม่ได้ใช้ยาแล้ว โอกาสที่สิวผด และสิวประเภทอื่น ๆ ขึ้นมาอีกนั้นเป็นไปได้ (เพราะใน BP นั้นจะมีสารฟอกขาว (Bleaching) ที่กัดสีเสื้อผ้าให้ขาวได้ สารนี้ทำให้ผิวแห้งลง และผิวชั้นนอนหลุดลอกออก จึงทำให้สิวแห้ง และทำให้หัวสิวอุดตันเปิดอยู่เสมอ แต่ก็ทำร้ายผิวด้วยเช่นกัน)

วิธีการบำรุง
  • ให้เริ่มจากการล้างสารพิษในผิวด้วย "มาส์กสาหร่ายคลายพิษ" เป็นประจำทุกวัน จนกว่าอาการผิวบาง แพ้ แสบ แดง จะดีขึ้น จะสังเกตได้ว่า อุณหภูมิของผิวจะลดลง อาการคันยุบยิบในผิว และสิวผดจะลดปริมาณลงอย่างเห็นได้ชัด สิวอักเสบหัวจะออกเร็วขึ้น
  • งดเครื่องสำอางทุกตัวที่ใช้อยู่อย่างเด็ดขาด ใช้เฉพาะเจลล้างหน้าสูตรอ่อนโยนเท่านั้น ไม่ต้องผสมสาร เช่น สารทำให้หน้าขาว บีดส์ ใด ๆ ทั้งสิ้น
  • เมื่อผิวเริ่มมีสุขภาพดีขึ้น ให้ลง Treatment Serum เพื่อรักษาสิว ริ้วรอย จุดด่างดำ ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ แล้วตามด้วยมาส์กสาหร่ายดังกล่าว
  • เมื่อสุขภาพผิวดีขึ้นแล้ว ค่อยพิจารณาใช้บำรุงตัวอื่นตามสภาพผิวหน้าและความต้องการต่อไปค่ะ
  • ระหว่างที่ฟื้นฟูสภาพผิวนี้ มาส์กและ Treatment Serum ควรแช่เย็น และควรล้างหน้าด้วยน้ำเย็นเป็นประจำ เพื่อทำให้ผิวคืนสภาพเร็วขึ้น
  • ควรทาน Dtox1 และ Collagen+C ควบคู่ไปด้วยเพื่อขับล้างสารพิษสะสมในลำไส้ เลือดและเซลล์ พร้อมช่วยเร่งกระบวนการฟื้นฟู และซ่อมแซมผิวให้เร็วขึ้นค่ะ
ระยะเวลาการฟื้นฟู
ประมาณ 2 สัปดาห์ - 1.5 เดือน (ขึ้นอยู่กับระดับความอ่อนแอของผิวและสารพิษสะสมค่ะ)

2. ผิวมีฝ้ากระ หรือจุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ

ลักษณะผิว
ผิวประเภทนี้จะมีการทำงานของเม็ดสีที่ผิดปกติ ส่วนมากเกิดจากการสัมผัสความร้อน แสงแดด หรือแม้แต่ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง

สำหรับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงนั้น จะมี 2 ลักษณะคือ
1. ผู้หญิงตั้งครรภ์
2. ผู้หญิงเลือดลมไม่ดี หรือมีปัญหาบริเวณรังไข่ หรือเกี่ยวกับรังไข่

ซึ่งถ้าหากสาเหตุเกิดจากการที่คุณสัมผัสกับแสงแดด หรือความร้อนโดยไม่มีการทาครีมกันแดดป้องกัน และไม่มีการบำรุงที่เหมาะสม จะทำให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือมีสีผิวไม่สม่ำเสมอค่ะ

สาเหตุนี้สามารถแก้ได้โดย ใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมประเภทผลัดเซลล์ผิวและยับยั้งการทำงานของเม็ดสี โดยส่วนใหญ่จะเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่ม Whitening ของเรา ที่มักต้องใช้เฉพาะกลางคืนเท่านั้น เช่น
ซึ่งก่อนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ควรทารองพื้นเป็นอาหารผิวตัวนี้ค่ะ จะช่วยลดอาการระคายเคืองที่อาจเกิดระหว่างวันจากการทำงานผลัดเซลล์ผิว


อาหารผิวต้านการระคายเคืองทุกรูปแบบ

นอกจากนี้ หากใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มผลัดเซลล์ผิวและลดการทำงานของเม็ดสีดังกล่าว จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ควบคู่ไปอีก 2 ตัวคือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและกันแดดค่ะ

ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ควรจะเลือกตามระดับความเข้มข้นของตัวยาที่ใช้ในการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งตรงนี้สามารถสอบถามบีมได้อีกครั้งค่ะ

ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวคือ
มันจะมีบำรุงเนื้อหนัก ซึ่งควรใช้เฉพาะกลางคืนเท่านั้น เพราะมีอาหารผิวบรรจุมาก เช่น Super Nourishing Serum หรือ Collagen สดค่ะ ซึ่งถ้าคนหน้ามันใช้ตอนเช้าด้วย จะยิ่งหน้ามันเลย เป็นผลเสียค่ะ ใช้กลางคืนดีกว่า

ส่วนบำรุงเนื้อเบาที่เหมาะจะใช้บำรุงตอนเช้า และก่อนนอนได้คือ VitC-Gluta Serum ค่ะ และในรายที่หน้าแห้ง สามารถใช้ Collagen สด หรือเซรั่มคาร์เวียบำรุงตอนเช้าก่อนแต่งหน้าทาแป้งได้ค่ะ ^^

สำหรับกันแดด เรามีข้อแนะนำดังนี้ค่ะ

1. ผิวเป็นสิว สามารถใช้
  • MerryBeam BB Solution (Base Version SPF 80 Nano) (แบบปกปิด)
  • Milky Nano White Sunscreen SPF60 (แบบไม่ปกปิด)
  • โดยปกติ ผิวเป็นสิวหรืออยู่ในช่วงฟื้นฟูสภาพ ยังไม่จำเป็นต้องทากันแดด ให้หลบแดดเอาค่ะ แต่ถ้าต้องแต่งหน้า ให้เลือกกันแดดตามที่แนะนำค่ะ
2. ผิวไม่เป็นสิว แต่เป็นฝ้า กระ รอยสิว

ถ้าหากเป็นฝ้า กระ หรือสีผิวไม่สม่ำเสมอจากฮอร์โมน หากเป็นผู้หญิงตั้งครรภ์ไม่ควรทำอะไรค่ะ แต่ถ้าหากไม่ได้ตั้งครรภ์แล้วมีปัญหาดังกล่าว จำเป็นต้องออกกำลังกายมากขึ้นเพื่อให้การหมุนเวียนของเลือดดีขึ้น ปรับพฤติกรรมสุขภาพ และอาจทานยาบำรุงสำหรับสตรีโดยเฉพาะค่ะ (แนะนำยาสตรีหมอเส็ง ที่บีมไม่ได้มีเอี่ยวอะไรด้วยเลยนะคะ เคยทาน และคนในบ้านทานแล้วมันดีมากจริง ๆ ทั้งผิว ทั้งระบบภายใน จึงขอแนะนำค่ะ)

ข้อมูลที่แบ่งปันกันได้มาจากประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์และข้อมูลที่ได้รับฟัง ได้อ่านเพิ่มเติมด้วยค่ะ

หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อการทำความเข้าใจผลิตภัณฑ์ ผิวของคุณเอง และการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมเบื้องต้นได้นะคะ

หากมีข้อสงสัยใด ๆ สอบถามได้เสมอค่ะ rinyabhatr@gmail.com หรือ Facebook หรือ เว็บบอร์ด หรือ 080 499 8105 ค่ะ

ขอให้มีวันเสาร์ที่สนุกนะคะ ^^