ครรภ์ปลอดสิว ภาค 2

ภาคแรกเขียนเอาไว้ในบล็อกปฏิวัติความคิดพิชิตสิวค่ะ

ภาคสองเอามาเขียนไว้ที่นี่แทน เพราะหายจากเครื่องสำอางมาร์คหน้าค่ะ เลยขอมาแชร์ความตื่นเต้นด้วยตัวเอง

คือ ตอนแรกไม่รู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ค่ะ เพราะไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้
แต่ด้วยความผิดปกติหลายอย่าง โดยเฉพาะ สิวที่ขึ้นแบบไม่ทราบสาเหตุ
ทั้งที่เราก็ทานอะไรเหมือนเดิม ดูแลสุขภาพเหมือนเดิมทุกอย่าง และหน้าก็ใสขึ้นแล้วด้วย เหลือรอยเก่า ๆ ตรงแก้มหน่อยเดียว

ซึ่งบอกตามตรงว่า กำลังเตรียมตัวจะไปตัดผมสั้นแบบคุณเจี๊ยบหรือน้องกิ่งทีเดียว เพราะอยากตัดมานานแล้ว แต่หน้าไม่เคยใสเลย และรู้สึกว่าจะตัดแบบนั้นต้องหน้ากิ๊งค่ะ ถึงจะดูดี คือ เตรียมตัวแล้วจริง ๆ

แต่คุณลูกก็มาเกิดค่ะ :-) ดีใจนะ แต่สิวขึ้นมากมาย ๆ

ตอนแรกก็ยังไม่รู้จะต้องกินอะไร ก็กินนมวัว นมเปรี้ยวที่ทำจากนมวัวพวกนั้นล่ะค่ะ ยิ่งทำให้สิวแย่ไปใหญ่ แต่พอเริ่มอ่านหนังสือและจับหลักได้ ก็เลิกนมวัว และดื่มนมถั่วเหลืองและธัญพืชแทน เนื้อสัตว์ใหญ่ไม่ค่อยทานค่ะ ทานปลา ทานโปรตีนจากอย่างอื่นแทน อันนี้ทั้งห่วงน้องและห่วงสิวค่ะ เพราะเรากินนมวัวแล้วภูมิแพ้มาอีกแล้่ว และเคยอ่านว่า เด็กสมัยนี้ไม่ค่อยแข็งแรง เป็นภูมิแพ้มากตั้งแต่เกิดเพราะแม่ดื่มนมวัวตอนท้อง เราก็เลยไม่อยากดื่ม และก็คิดว่าอะไรที่ไม่ดีกับเรา ก็คงไม่ดีกับลูกด้วยแหละ เพราะเค้าเป็นเซลล์ที่เกิดจากเรา

พล่ามยาว เพราะอยากให้รู้ว่า อาหารที่ทานนั้นมีส่วนกับสิวอย่างมากค่ะ

ส่วนเครื่องสำอาง นี่เลยค่ะ ตอนนี้ใช้เซ็ตนี้ (Match เอาเอง บอกแล้วว่า ใช้ไปนาน ๆ ก็สลับไปสลับมาได้หมด เบื่อ ๆ ก็เปลี่ยน ไม่มีปัญหาเลย)


ซ้ายสุด: มาร์คพอกหน้า เสมือนมาร์ค Detox และเติมอาหารผิว ใช้ต่อกัน 4 คืนเลยทีเดียว หน้าสว่างใส สะอาดอย่างเป็นธรรมชาติทันทีหลังล้างเนื้อมาร์คออก ความร้อนบนผิว สิวอุดตันและสิวอักเสบลดลง 70-80% ใน 4 วัน (เพราะไปแพ้ผงสมุนไพรพอกหน้ามาจ้า ตอนแรกกะใช้ยารักษาสิว แต่ไม่กล้าซื้อ เลยไปใช้สมุนไพรผง คิดว่าแพ้เพราะผื่นเล็ก ๆ ขึ้นเต็มเลย แถมสิวอักเสบขึ้น เลยหยุดไปก่อน แล้วมาร์ค 4 คืนต่อกัน มันเยี่ยมยอดมากค่ะ ขอบอก สิวลดลง หน้ากระจ่างใสขึ้นจริง ๆ (ยังตื่นเต้นไม่หาย)

ถัดมา: โฟมล้างหน้า Nano Collagen อันนี้อ่อนดีค่ะ ก็ใช้ประจำนะ คือ โฟมเนี่ยไม่ต้องมีอะไรเติมเยอะหรอกค่ะ เชื่อเถอะ ไม่ต้องมีสารทำให้หน้าใสค่ะ เอาอ่อน ๆ แล้วพอให้สะอาด แล้วเดี๋ยวเรามาเติมบำรุงกับอาหารผิวแทนดีกว่า

ถัดมา: เป็นขวดแก้ว 2 อันเล็ก ๆ คือ วิตซีกับกลูต้าเซรั่มจ่ะ ใช้คู่กัน ใช้หลังล้างหน้าเพื่อเติมน้ำให้ผิวและช่วยบำรุงให้ผิวผลัดเซลล์เก่าออกได้ดีอย่างอ่อนโยนค่ะ

สุดท้าย: กันแดด อันนี้เป็นสูตรที่อยู่ที่ "ชุดหน้าเด้ง" จริง ๆ ชุดนี้มันมี 5 ตัว แต่อันอื่นให้คุณแม่หมดค่ะ เพราะใช้แล้วดี เลยแนะนำให้คุณแม่ลองเอาไปใช้ คุณแม่ติดใจ เลยใช้ทั้งเซ็ตเลย แต่เค้ามีกันแดดของเค้าอยู่ค่ะ บีมเลยเอากันแดดตัวนี้มา ช้อบชอบค่ะ มันบางเบาดี ไม่วอก ไม่มันด้วย ทั้งวัน

ผลลัพธ์คือ ผิวแบบนี้ (หลังจากมาร์คมา 4 คืนต่อกัน อะอะ)

เอามาให้ดูก่อน เดี๋ยวจะหาว่าใช้ไม่จริง :-)

แต่นแต๊นนน...

อันนี้ ถ่ายเช้าเมื่อวานค่ะ (30 พ.ค. 53) ก็คือ ล้างหน้าด้วยโฟมเสร็จ ลงวิตซีกลูต้าเซรั่ม และกันแดด ทาแป้งฝุ่นธรรมดา หน้าไม่แต่งเลย (เหลือสิวตรงแก้ม ๆ ค่ะ แต่มันลดลงมากมาย อักเสบก็ลด แดง ๆ ก็ลด สิวที่หน้าผากเกลี้ยงขึ้นกว่า 95% ค่ะ)

ให้เปรียบเทียบกับรูปตอนท้องใหม่ ๆ หน้าไม่กระจ่างใสเท่านี้นะคะ แต่ตอนนั้นเริ่มมีสิวเม็ดเล็กขึ้นค่ะ หลังจากหน้ากิ๊งเพราะสวนลำไส้ด้วยกาแฟ รูปนี้แต่งหน้าอ่อน ๆ ลงแป้งฝุ่น DHC



ส่วนอีก 2 รูป เอามาฝาก เผื่อไม่เชื่อว่าแต่ก่อนเยินจริง ๆ


อันนี้ ประมาณกลางปีที่แล้วค่ะ

อันนี้ประมาณ เม.ย.52 ค่ะ

ป.ล. เดี๋ยวเครื่องสำอางชุดใหม่ Treatment หน้าใสกำลังจะมา บีมรอใช้ตัวนั้นแหละ เค้าว่า เทพกว่ามาร์คนี้อีกค่ะ จะลอง ๆ :-)

ทำไมบีมจึงสามารถให้คำแนะนำได้ทั้ง 3 แนว

ที่บีมบอกไปนะคะ 3 แนวที่บอกคือ
1. ธรรมชาติ 100%
2. ธรรมชาติ 50% + เครื่องสำอาง/อาหารเสริม 50%
3. เครื่องสำอาง + อาหารเสริม 100%

ที่บีมสามารถให้คำแนะนำตามความต้องการ และ lifestyle ของคุณได้ทุกแนวเป็นเพราะ

1. บีมเคยรักษาสิวด้วยตัวเองอย่างเคร่งครัดโดยไม่แตะต้องเครื่องสำอางและอาหาร เสริมเลย 3 เดือนกว่า ๆ เพราะตอนนั้นกลัวสารเคมีมาก จึงใช้แต่ของธรรมชาติล้วน ๆ ค่ะ ผลที่ได้คือ รู้แล้วว่า

• อาหารสัมพันธ์กับสิวอย่างแยกไม่ออก
• เข้าใจว่าอะไรคือสาเหตุที่แท้จริงของสิว อะไรเป็นเพียงตัวกระตุ้น
• และอื่น ๆ อีกมากมาย

ข้อนี้ เขียนเอาไว้แล้วในหนังสือ Acne (First) Aid ค่ะ

2. สิวหายสนิทดีประมาณเดือน มี.ค. - เม.ย. 53 นี่เองค่ะ ก่อนหน้านั้น คงเหลือสิวเม็ดเล็ก ๆ เท่านั้น และช่วงที่สิวหายสนิท ได้รับรู้คุณค่าของอาหารเสริมในยามที่ร่างกายเราทานผักสดและผลไม้สดเหมือน ตอนอยู่บ้านไม่ได้ ตอนที่เราต้องไปใช้ชีวิตตามปกติข้างนอก ก็เริ่มประยุกต์เรื่องของหลักอาหารเสริมเข้ามาช่วยค่ะ

3. ถัดจากนั้นมา ก็ใช้การสวนกาแฟจนหน้าหาย ใสปิ๊งปั๊งจริง ๆ และมาสิวขึ้นอีกทีเพราะว่าตั้งครรภ์ค่ะ ^^ ขึ้นเต็มเลย เป็นเม็ดเล็ก ๆ ค่ะ

4. จากจุดที่ตั้งครรภ์ ซึ่งมีข้อจำกัดเยอะมาก ทั้งด้านอาหารเสริม เครื่องสำอาง และการใช้ยา แต่คุณแม่บีมก็ไม่ยอมแพ้ค่ะ ต้องคง concept เดิม คือ คุณลูกสุขภาพดี คุณแม่สวยตอนท้อง เหมือนที่บีมเคยฝันเอาไว้แบบนั้น และช่วงแรกเหม็นผัก จึงดื่มได้แต่น้ำปั่นผลไม้เท่านั้น และยังคงจับหลักดูแลครรภ์ไม่ถูก เลยไปกินนมวัว พาลเอาสิวยิ่งเห่อรุนแรง แต่ ณ วันนี้ รู้หลักแล้วค่ะ น้องก็แลดูสุขภาพดี เพราะไปซาวน์ก็จะเห็นเค้าตัวโตเร็ว และเคลื่อนไหวเกือบตลอด ส่วนบีมเองก็สิวลดลงไปเรื่อย ๆ แล้วค่ะ

เคล็ดลับจะมาบอกใน Post หน้าค่ะ ^^

แต่จากวิวัฒนาการดูแลหนังหน้าเป็นผิวหน้าด้วยตัวเองตลอด 1 ปีกว่าที่ผ่านมา บีมจึงคิดว่าความรู้ และประสบการณ์ที่มี จะสามารถให้คำแนะนำ คำปรึกษาเพื่อน ๆ ได้ทั้ง 3 แนวค่ะ แล้วแต่ว่าใครต้องการแบบไหน

ซึ่งแจ้งมาก่อนได้เลยค่ะ เวลาติดต่อเข้า

เพราะจากประสบการณ์การให้คำปรึกษาที่ผ่านมา พบว่า มีน้อยท่านที่จะสามารถปฏิบัติตามแนวธรรมชาติได้ 100% เนื่องด้วยงานวิถีชีวิตในเมืองใหญ่ หรือภารกิจงานประจำที่ทำให้จัดสรรเวลาได้ไม่ค่อยลงตัว และมีข้อจำกัดมากมาย เช่น ร้านอาหารที่ไปทานมื้อกลางวัน หรือแม้แต่ประชุมด่วน ๆ ที่บางทีก็ทำให้ต้องทานข้าวผิดเวลา

บีมจึงคิดว่า หลายท่านสะดวกที่จะเดินสายกลางคือ วันหยุดก็พักผ่อน ล้างพิษซะหน่อย วันธรรมดา ก็อยากจะมีตัวช่วย จึงเป็นสายกลางคือ ธรรมชาติ 50 อาหารเสริม/เครื่องสำอาง 50

และบางท่าน Super Busy มาก ๆ ก็เอาไปเลย อาหารเสริม/เครื่องสำอาง 100%

ซึ่งหลายท่านมักถามว่า แล้วอาหารเสริมต้องทานไปถึงเมื่อไหร่

บีมก็จะตอบว่า ตราบเท่าที่ร่างกายของคุณจะทำงานต้านเชื้อโรคได้สมบูรณ์หรือคุณมีชีวิตที่ สมดุลอีกครั้งค่ะ

แต่การทาน ไม่ใช่ว่าจะทานตลอดทั้งปี

ส่วนใหญ่แล้ว ช่วงแรกจะทานปริมาณมากหน่อยค่ะ เพื่อเติมสารอาหารที่เราขาดแล้วทำให้ร่างกายมีปัญหานั่นแหละ เติมให้เต็ม เติมให้พอ

การพอหรือไม่นั้น ให้ดูที่อาการของโรคว่า ทุเลาลงหรือหายรึยัง

ถ้ามันถึงจุดนั้นแล้ว ก็ให้ลดปริมาณลง เช่นจาก 2 ครั้งเหลือ 1 ครั้ง
จาก 2 แคปซูล เหลือ 1 แคปซูล

ซึ่งในเรื่องการใช้นี้ ปรึกษาบีมได้ตลอดค่ะ เพราะอาหารเสริมแต่ละตัวไม่เหมือนกัน ทั้งเรื่องคุณสมบัติและความเข้มข้น

เครื่องสำอาง คุณก็สามารถใช้สลับสับเปลี่ยนได้ไปมาตลอดค่ะ ของ MerryBeam ตัดปัญหาการแพ้และติดเครื่องสำอางไปได้เลยค่ะ

ใช้แล้วไม่ติด หยุดใช้หน้าไม่ดำ สิวไม่เห่อ เบื่ออันนี้แล้วจะไปลองใช้ตัวอื่น (หมายถึงของ MerryBeam เหมือนกัน ถ้ายี่ห้ออื่น ไม่รับประกันค่ะ) ก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย

ยืนยันคำเดิมค่ะ ปรึกษากันได้เสมอ

ผลิตภัณฑ์ของเราช่วยได้จริง ๆ ค่ะ แต่ว่า ขึ้นอยู่กับว่า เราจะ Match หรือจับคู่ผลิตภัณฑ์กับผิวได้ถูกช่วงถูกเวลาหรือไม่

เช่น ถ้าเอาบำรุงเข้มข้นมาก ๆ ไปใส่ผิวเป็นสิวเยอะ ๆ มันก็แย่ลงค่ะ ซึ่งจริง ๆ แล้ว ตัวเดียวกันนี่แหละ ถ้าใส่ตอนคุณหายสิวแล้ว มันจะแจ่มขึ้นอย่างมากมายเลยทีเดียว

บีมไม่ทิ้งคุณกลางทางนะคะ เข้ามาถามได้ตลอด อยากให้หายเหมือนกัน ^^

เอาใจช่วยเสมอค่ะ

แนะนำ MerryBeam

สวัสดีค่ะ ทุกคน

บล็อกนี้ทำขึ้นมาเพื่อต้องการที่จะให้ข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับ MerryBeam Cosmetics นะคะ เจ้าของร้านตั้งใจว่า ควรจะมีแหล่งข้อมูลให้ลูกค้าให้ศึกษาก่อนว่า เราเป็นใคร ผลิตภัณฑ์ของเราเป็นยังไง เพื่อที่จะได้ตัดสินใจว่ามันตรงกับความต้องการของคุณหรือไม่

เพราะเจ้าของร้าน (ขอเรียกตัวเองว่า บีม นะคะ เพราะนี่คือชื่อเล่น) เข้าใจดีว่า ในตลาดเครื่องสำอางที่มีเป็นร้อยเป็นพันยี่ห้อนั้น ทั้งตลาดบน กลาง ล่าง เราในฐานะผู้บริโภค ก็ไม่รู้จะเลือกอันไหนดีใช่มั้ยคะ บ้างก็ซื้อเพราะเพื่อนใช้ดี บ้างก็ซื้อเพราะเป็นยี่ห้อที่ใช้ดีมาแต่ไหนแต่ไหน บ้างก็ชอบลองไปเรื่อย ๆ เพราะยังไม่เจออะไรตอบโจทย์เสียที

ไม่ว่าเหตุผลของคุณคืออะไร บีมในฐานะผู้จัดจำหน่ายและผู้ใช้สินค้า Brand MerryBeam (ของตัวเอง) ด้วยนั้น จะพยายามให้ข้อมูลครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลของตัวผลิตภัณฑ์ ผลการใช้จากลูกค้า(ในร้านจะมีระบบ Review ซึ่งลูกค้าสามารถเข้าไปอ่านความเห็นของลูกค้าท่านอื่นที่มีต่อผลิตภัณฑ์นั้น ๆ แล้วพิจารณาเองได้ค่ะ) ผลจากการใช้ของตัวบีมเอง และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องสำอาง

เพราะเครื่องสำอางและอาหารเสริมเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับหลาย ๆ อย่าง ทั้งแง่ความงาม แง่ความปลอดภัย แง่กฎหมาย และแง่ของทัศนคติของลูกค้าเอง

เนื่องจากได้คลุกคลีและได้ข้อมูลจากวงการนี้มาสักพัก ก็พอจะทราบว่าภายในวงการนั้นเป็นอย่างไรค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ บีมจึงอยากที่จะเป็นทางหนึ่งที่จะช่วยให้ลูกค้าได้ตัดสินใจซื้อในสิ่งที่ดีที่สุดและปลอดภัยต่อคุณมากที่สุด และบีมก็เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ผลิตภัณฑ์ MerryBeam ที่บีมคัดสรรมาเป็นอย่างดี ใช้แล้วเห็นผลกับตัวเองและคนรอบข้างทุกตัว จะเป็นคำตอบให้กับลูกค้าทุกท่านได้ค่ะ

การใช้นั้น เห็นผลแน่นอนค่ะ และผลที่ได้ต้องขอการันตีว่า ผิวจะดีขึ้นในระยะยาวจริง ๆ มันจะแข็งแรงขึ้น ขาวใสขึ้นอย่างยั่งยืน :-) แม้แต่คนท้องก็ยังสวยอย่างปลอดภัยได้ค่ะ แล้วเดี๋ยวบีมจะมาอัพให้อ่านกันอีกครั้งเกี่ยวกับการดูแลผิวหน้าของบีมให้ปลอดสิวในช่วงตั้งครรภ์ :-) โดยใช้ผลิตภัณฑ์ MerryBeam เท่านั้นค่ะ

ส่วนคนที่เคยหาหมอแล้วอยากเลิกหาเพราะหน้าอ่อนแอ บีมสามารถให้คำปรึกษาได้ตั้งแต่คุณเริ่มถอนยาหมอจนกระทั่งผิวดีขึ้นตามลำดับได้ค่ะ โดยอิงจากประสบการณ์การให้คำปรึกษา 8-9 เดือนที่ผ่านมาและเห็นผลไปเป็นรุ่น ๆ ค่ะ อะอะ :-) (ทำอย่างกับโรงเรียน) แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับทัศนคติ วินัย ความช่างสังเกตส่วนบุคคลด้วยนะคะ

ส่วน MerryBeam เป็นเครื่องสำอางที่บีมตัดสินใจทำเพื่อลูกโดยเฉพาะ จริง ๆ แล้วยังไม่รู้หรอกว่า เค้าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง แต่อยากจะเรียกเค้าว่า Merry ไปก่อน (มีคนแอบเกรงว่า ถ้าเป็นผู้ชาย แล้วน้องจะเป็นกระเทยมั้ย อะอะ) Merry เป็นชื่อเรียกเล่น ๆ เค้าไปก่อนที่จะรู้เพศค่ะ แปลว่า "ความสุข ความรื่นเริง" เพราะเค้าทำให้บีมรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ ส่วนบีมก็คือ ชื่อบีมเอง

ที่มาของชื่อก็คือลูกนี่แหละค่ะ ^^ พอดีว่าเรามีกันแค่ 2 คน และบีมก็ต้องทำงานเองหมดค่ะ มันก็หนักบ้าง เหนื่อยบ้าง แต่พอได้ยินชื่อ MerryBeam มันก็หายเหนื่อยและมีแรง

ที่ผ่านมา บีมรักษาสิวแนวธรรมชาติบำบัดค่ะ ทำเอง ไม่ได้หาหมอเลย มีถูกผิด ขึ้นลง แต่ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้ทั้งภายในและภายนอกแข็งแรงจริง ๆ จากที่ไม่คิดว่าจะมีลูกได้ ก็กลับมีลูกตอนสิวหายนี่แหละ มหัศจรรย์ดีนะคะ

มันเลยกลายเป็นสิ่งที่บีมอยากจะเผยแพร่ให้คนอื่น ๆ ต่อไป

เพราะเห็นเหลือเกินว่า สมัยนี้ ความงามมักจะเป็นแบบฉาบฉวย และหลายครั้งที่เห็นข่าวแล้วสลด หลาย ๆ คน อาจจะคาดไม่ถึงว่าสิ่งที่กำลังบริโภคหรือใช้อยู่นั้น จะเกิดผลอะไรต่อร่างกายในอนาคตบ้าง

บีมไม่ได้เป็นคนยึดติดกับสังขารหรือความสวยงาม มองว่าเป็นสิ่งภายนอก แต่เราก็จำเป็นต้องทำให้มันดูดี ไม่งั้นเราก็จะเหมือนซากศพที่เดินได้ค่ะ

ความสวยงามที่แท้จริงมันออกมาจากข้างใน

แต่ก่อนบีมไม่ได้มีผิวและสุขภาพแบบนี้

จนมาเจอแนวธรรมชาติบำบัดที่ปฏิบัติเองและมาเจอเครื่องสำอางดี ๆ แบบนี้ถึงทำให้มีผิวดี ๆ และสุขภาพดี ๆ แบบนี้ได้

บีมพร้อมจะตอบคำถามทุกคำถาม

เพียงแต่ขอให้คุณบอกว่า คุณต้องการจะรักษาตัวเองแนวไหน บีมให้คำปรึกษาได้ทุกแนว
1. แนวธรรมชาติ 100%
2. แนวธรรมชาติ 50% + แนวเครื่องสำอาง/อาหารเสริม 50%
3. แนวเครื่องสำอาง + อาหารเสริม 100%

เพราะบีมทำมาหมดทุกแนวแล้วค่ะ

แม้จะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญระดับลึก แต่บีมเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ทดลองจนเห็นกับตัวเอง คนรอบข้าง และเพื่อน ๆ ที่ได้ทดลองปฏิบัติดู และเราเห็นว่ามันดีกับทุกคนในระยะยาว เพราะ
1. เค้ามีความรู้ในการดูแลสุขภาพพื้นฐาน และเข้าใจว่าสิว หรือปัญหาผิวพรรณที่มีเกิดจากภายในอย่างไร และต้องปฏิบัติตัวอย่างไร
2. เค้ามีข้อมูลที่เพิ่มขึ้นในการจะตัดสินใจใช้อะไรบ้างกับร่างกายอย่างชาญฉลาดและรู้ทันตลาดเครื่องสำอางและอาหารเสริมมากขึ้น

บีมยินดีที่จะให้คำปรึกษาทุกอย่างค่ะ เพราะอยากให้พึ่งตัวเองได้เหมือนกัน เหมือนที่บีมทำได้แล้ว

เอาใจช่วยทุกคนนะคะ

ขอให้ผิวสวยใส สุขภาพดีเป็นของคุณตลอดไป
MerryBeam